เมื่อพูดถึงวันหยุดในช่วงฤดูหนาวนั้น อาหารดั้งเดิมจึงมีความสำคัญต่อการเฉลิมฉลองในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และอาหารค่ำในวันคริสต์มาสนั้นเป็นมื้อที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ การเฉลิมฉลองนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนเย็นของวัน Christmas Eve จนยาวไปถึงวันคริสต์มาสกันเลยทีเดียว
ประเทศฝรั่งเศส
Bûche de Noël หรือ Yule Log หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “เค้กขอนไม้” นั้นถือเป็นขนมหวานที่คนฝรั่งเศสจะต้องรับประทานทุกปีในวันคริสต์มาส โดย Bûche de Noël ในยุคแรกนั้นจะทำด้วย Genoise เค้ก หรือสปอนจ์เค้กนำมาม้วนเหมือนเค้กโรลเป็นรูปขอนไม้ แต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตและบัตเตอร์แต่งให้มีพื้นผิวแบบเปลือกไม้ ใช้ไข่ขาวทำเป็นรูปดอกเห็ด
ประเทศอังกฤษ
อาหารค่ำวันคริสต์มาสในประเทศอังกฤษนั้น ผู้คนมักจะรับประทานในช่วงบ่ายของวันที่ 25 ธันวาคม อาหารเย็นโดยทั่วไปประกอบด้วยไก่งวง, ไก่ฟ้า, เป็ด หรือห่านเสิร์ฟพร้อมกับน้ำเกรวี่, Pigs in blankets และซอสแครนเบอร์รี่หรือเยลลี่ Redcurrant ของหวานที่เสิร์ฟมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพุดดิ้งที่ทำจากวัตถุดิบถึง 13 ชนิดด้วยกัน รวมไปถึงผลไม้และเครื่องเทศที่หลากหลายชนิด หรือจะเป็นของหวานอื่นๆอย่างเช่น Minced pies และ trifles.
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเทศอังกฤษเป็นต้นกำเนิดของอาหารค่ำวันคริสต์มาสในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะประกอบไปด้วย มันบด, ผักย่าง, อาหารจานหลักเสิร์ฟพร้อมกับซอสเกรวี่ ซึ่งอาหารที่ทานกันในวันคริสต์มาสนั้นก็จะต่างกันออกไปตามรัฐและภูมิภาค
ในภูมิภาค Midwest นั้นได้รับอิทธิพลมากจาก Scandinavian อาหารที่นิยมทานกันส่วนใหญ่ก็จะเป็น Lutefisk หรือ mashed turnip ในรัฐทางใต้มักเสิร์ฟข้าวแทนมันฝรั่ง หรือถ้าหากเป็นแนวตามชายฝั่งก็มักจะเสิร์ฟอาหารทะเล
ประเทศเยอรมนี
ในประเทศเยอรมนี เมนูที่นิยมทานกันในช่วงคริสต์มาสนั้น มักจะเป็นห่านย่างและปลาคาร์พย่าง และก็อาจมีการเสิร์ฟหมูหรือเป็ดด้วย ส่วนเครื่องเคียงนั้นมักจะเป็นมันฝรั่ง และกะหล่ำปลีรูปแบบต่าง ๆ เช่นคะน้า, กะหล่ำปลีม Brussels sprouts หรือกะหล่ำปลีแดง เรียนรู้เพิ่มเติมคลิกที่นี่
ที่สโลนส์
