พาสตี้เป็นรูปแบบของพาย ในยุคกลางจากสหราชอาณาจักรย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 12 ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์จะอ้างอิงการทำพาสตี้ทั่วทั้งประเทศ แต่ถึงยังไงมันกลายเป็นความหมายเดียวกัน ระหว่างคอร์นวอลล์กับคอร์นิช เป็นเหมือนอาหารชั้นยอดในโลก จากแชมเปญไปจนถึงพาเมซานชีส คอร์นิชพาสตี้ มีลักษณะทางภูมศาสตร์เฉพาะและต้องทำในคอร์นวอลล์ตามหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดทั้งในด้านส่วนผสมและรูปร่าง จะเรียกว่าคอร์นิชพาสตี้

ขนมคอร์นิชมีต้นกำเนิดมาจากอาหารกลางวันแบบพกพาสำหรับคนงานเหมืองแร่ดีบุกชาวประมงและชาวนาพกไปกินในการทำงาน หนึ่งในความเชื่อของพวกเขาเหล่านั้น คือคนงานเหมืองดีบุกทิ้งขอบขนมที่หนาและกว้างออกไปหลังจากกินอาหารที่ด้วยความเชื่อที่ว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นิ้วของพวกเขาได้รับพิษจากดีบุกหรือทองแดง

ตามหลักแล้ว พาสต้าคอร์นิชที่แท้จริงควรทำจากเนื้อวัว (โดยเฉพาะสเต็กเสกิ้ต) หัวหอมมันฝรั่งและผักรูตาบากา จากนั้นพับให้เป็นรูปตัว“ D” และจีบที่ขอบ การใช้แครอทในขนมอบคอร์นิชแบบดั้งเดิมนั้นไม่เป็นที่นิยมนักแม้ว่าจะปรากฏเป็นประจำในหลายสูตร

ในขณะที่กฎของ PGI ระบุว่าพาสตี้คอร์นิชจะต้องเป็นรูปทรง “D”เท่านั้น โดยต้องมีการจีบตามขอบที่เรียกว่า “การจีบด้านข้าง” บางคนสนับสนุนการ ”จีบด้านข้าง” ในขณะที่คนอื่น ๆ ยืนยันว่าการ “จีบด้านบน” เป็นการทำพาสตี้คอร์นิชของแท้ ยืนยันด้วยภาพถ่ายย้อนหลังไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ของคนงานเหมืองที่ถือขนมอบ “จีบด้านบน” แต่คนทำขนมปังชาวคอร์นิชไม่สามารถเรียกพายคอร์นิชที่จีบด้านบน ว่าเป็น “คอร์นิช” ของพวกเขาได้ หลายคนบอกว่าการ “จีบขนมด้านบน”นั้น มีอิทธิพลมาจากมณฑลเดวอนที่อยู่ใกล้เคียง

ที่นี่ที่ Sloane’s ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯเราจะไม่เรียกขนมอบของเราว่าคอร์นิชและแม้ว่าหลายคนอาจไม่เห็นด้วย แต่เราชอบสไตล์การจีบขนมด้านบน เพราะว่าเรารู้สึกว่ามันเติมเต็มไส้ได้ดีกว่า  แต่เราจะทำตามสูตรดั้งเดิมโดยบางส่วนโดยการใช้เนื้อส่วนเสกิ้ตจากเนื้อแองกัสและวากิวท้องถิ่นที่ไม่มีการฉีดสารเร่งโตและไม่มีการใช้ยาปฎิชีวนะ พร้อมกับรูตาบากา เนื่องจากถ้าไม่มีวัตถุดิบเหล่านี้ รสชาติจะออกมาไม่ถูกต้อง ดังนั้นด้วยความที่เราตั้งอยู่ห่างจากคอร์นวอลล์ 10,000 กม. และการที่เราใช้การจีบด้านบน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเรียกมันว่า คอร์นิช ดั่งเดิม ดังนั้นเราจึงจะเรียกว่ามันเป็นเพียงแค่ขนมปัง “คอร์..นิช “!